Bean Belt คืออะไร? ทำไมถึงสำคัญ

Bean Belt คืออะไร? ทำไมถึงสำคัญ

สายพานเมล็ดกาแฟ คืออะไร และมีความสำคัญอย่างไร bean belt คืออะไร

แม้จะมีกาแฟมากกว่าสองพันล้านแก้วที่ดื่มทุกวันทั่วโลก แต่มีเพียงไม่กี่คนที่รู้ว่ากาแฟนั้นมาจากไหน มาดูกันว่า The Coffee Bean Belt แหล่งเพาะปลูกกาแฟที่ดีหรือสายพานกาแฟ คืออะไร และทำไมมันถึงสำคัญ

Bean Belt แหล่งเพาะปลูกกาแฟที่ดี หรือ bean belt เป็นแหล่งปลูกกาแฟของโลก โดย bean belt อยู่ระหว่าง Tropics of Cancer และ Capricorn 23.5 องศาเหนือและใต้ของเส้นศูนย์สูตร แหล่งเพาะปลูกหาแฟที่ดีผ่านกว่า 70 ประเทศซึ่งมีภูมิอากาศแบบเขตร้อนมีสภาพแวดล้อมที่อุดมสมบูรณ์ที่เหมาะสำหรับการปลูกกาแฟ

กาแฟทั้งหมดที่ผลิตในแหล่งเพาะปลูกกาแฟที่ดี มีความต่างกัน มาดูกันเลยว่าคุณจะซื้อกาแฟที่มีรสชาติดีที่สุดในโลกได้อย่างไร ?

แหล่งเพาะปลูกกาแฟที่ดี ( Bean Belt ) bean belt คืออะไร

แหล่งเพาะปลูกกาแฟที่ดี คาดว่าเป็นการเส้นทางที่ไหลผ่านกลางโลกจากเหนือจรดใต้ Bean Belt มีระยะทางประมาณ 3,200 ไมล์ (5,100 กม.) ที่ครอบคลุม 5 ทวีป ได้แก่ อเมริกาใต้, อเมริกาเหนือ, แอฟริกา, เอเชีย และโอเชียเนีย อย่างไรก็ตามโอเชียเนียสามารถผลิตกาแฟได้น้อยมากเมื่อเทียบกับอีก 4 ทวีป จาก 70 ประเทศหรือมากกว่าที่ bean belt ผ่าน มีเพียง 44 ประเทศเท่านั้นที่ผลิตกาแฟในปริมาณที่มาก และนี่คือรายชื่อประเทศผู้ผลิตกาแฟเหล่านั้น

BrazilVietnamColombiaIndonesia
EthiopiaHondurasIndiaMexico
PeruUgandaGuatemalaNicaragua
ChinaMalaysiaIvory CoastCosta Rica
TanzaniaPapua New GuineaKenyaThailand
El SalvadorVenezulaLaosPhilippines
CameroonRwandaEcuadorDR Congo
BurundiMadagascarGuineaHaiti
Dominican RepublicTogoCubaYemen
BoliviaPanamaSierra LeoneUnited States
AngolaMalawiLiberiaJamaica

สิ่งที่จำเป็นสำหรับการเจริญเติบโตของพืช มีความจำเป็นทางชีวภาพทั่วไปสำหรับพืชทุกชนิด คือ แสงแดด, น้ำ, ดิน และอากาศ ทั้ง 4 อย่างนี้รวมกันเพื่อให้พลังงานและสารอาหารที่พืชต้องการ

ต้นกาแฟ ก็ต้องการสภาวะที่เหมาะสมในการต้องการอยู่รอดและเติบโตและนี่คือที่มาของ bean belt จึงทำให้ตำแหน่งทางภูมิศาสตร์ของ bean belt มีความพิเศษเนื่องจาก

  • มีฝนเพียงพอกับฤดูแล้งที่แตกต่างกัน
  • สภาพภูมิอากาศมีวันที่มีแดดปานกลางโดยมีอุณหภูมิที่เย็นและคงที่
  • มีระดับความสูงเพียงพอที่ต้นกาแฟจะเติบโตได้
  • ดินมีความอุดมสมบูรณ์สำหรับต้นกาแฟ

แม้ว่าสภาพการปลูกในแต่ละประเทศจะคล้ายคลึงกัน แต่ความผันแปรของดิน, อุณหภูมิ, ปริมาณน้ำฝน และความสูงล้วนส่งผลต่อรสชาติของเมล็ดกาแฟที่ต้นกาแฟผลิต รสชาติของกาแฟหนึ่งชนิดอาจแตกต่างอย่างมากจากอีกชนิดหนึ่งที่ผลิตในแหล่งเพาะปลูกใกล้เคียง แม้ว่ากาแฟสามารถเติบโตนอก bean belt กาแฟได้ แต่กาแฟที่ผลิตนอก bean belt นั้นไม่มีที่ใดมีความสมบูรญ์และใกล้เคียง เพราะภูมิภาคเหล่านั้นขาดปัจจัยพื้นฐานที่จำเป็นสำหรับต้นกาแฟ

Bean Belt ต้นกาแฟในไร่ bean belt คืออะไร
ต้นกาแฟในไร่กาแฟ

ทำไม Bean Belt จึงสำคัญ ?

สภาพภูมิอากาศภายใน bean belt กาแฟมีสภาวะที่เหมาะสมสำหรับการปลูกกาแฟ เพราะต้นกาแฟมีความต้องการสภาวะแวดล้อมที่เหมาะสมมากหากจะผลิตกาแฟคุณภาพดี

ปริมาณน้ำฝน

ต้นกาแฟต้องการสภาพอากาศแบบเขตร้อนชื้น ที่มีฤดูแล้งและฤดูฝนที่แตกต่างกัน ชาวไร่กาแฟจำนวนมากอาศัยปริมาณน้ำฝนเป็นแหล่งน้ำเพียงแหล่งเดียว ดังนั้น ฤดูฝนจึงให้น้ำในปริมาณมากแก่ต้นกาแฟตามต้องการเพื่อความอยู่รอด ส่วนฤดูแล้งเป็นโอกาสในการเก็บเกี่ยวผลเชอร์รี่กาแฟ ซึ่งฤดูการเก็บเกี่ยวของกาแฟมีระยะเวลาสองถึงสามเดือนในช่วงฤดูแล้ง และจะมีการเก็บผลกาแฟหลายครั้งในช่วงหลายเดือนที่ยังคงสุกงอม ในขณะที่ประเทศส่วนใหญ่มีฤดูเก็บเกี่ยวครั้งเดียว แต่บางประเทศอย่างโคลอมเบีย มีฤดูเก็บเกี่ยวรอบสองแต่ใช้ระยะเวลาที่สั้นลง

อุณหภูมิ

ต้นกาแฟต้องการอุณหภูมิที่คงที่ เนื่องจากความไวต่อความเย็นจัดและความร้อนจัดต้นกาแฟจำนวนมากจึงไม่สามารถทนต่อความผันผวนของอุณหภูมิได้มากนัก จึงต้องการอุณหภูมิตลอดทั้งปี ที่ระหว่าง 15 – 30°C (59 – 86°F) อีกประเด็นหนึ่งคือกาแฟบางสายพันธุ์ไม่ชอบแสงแดดมากเกินไป เพื่อปกป้องต้นกาแฟแหล่งเพาะปลูกบางแห่งจึงใช้การปกป้องต้นไม้ป่าเพื่อให้ร่มเงาแก่ต้นกาแฟ

กาแฟที่ปลูกใต้ร่มเงามีประโยชน์อื่น ๆ เช่น ขัดขวางการเจริญเติบโตของวัชพืช ป้องกันน้ำค้างแข็ง และเพิ่มจำนวนแมลงผสมเกสร ซึ่งส่งผลให้ผลเชอร์รี่กาแฟมีปริมาณมากขึ้น กาแฟที่ปลูกในที่ร่มจึงจะใช้เวลานานกว่าในการทำให้สุกและทำให้ได้กาแฟที่ซับซ้อนขึ้น เนื่องจากน้ำตาลผลไม้ตามธรรมชาติมีเวลาในการพัฒนามากขึ้น เนื่องจากกาแฟปลูกใกล้กับเส้นศูนย์สูตรประเทศที่ผลิตกาแฟจึงเป็นประเทศที่ร้อนที่สุดในโลก ด้วยเหตุนี้กาแฟส่วนใหญ่จึงปลูกบนที่สูงซึ่งมีอากาศเย็นและคงที่มากกว่า

ระดับความสูง

กาแฟส่วนใหญ่ของโลกปลูกระหว่าง 1,000 – 2,000 ม. (3,300 – 6,600 ฟุต) เหนือระดับน้ำทะเล อุณหภูมิที่ระดับความสูงเหล่านี้จะไม่เปลี่ยนแปลงมากนักระหว่างจุดสูงสุดและต่ำสุด ซึ่งเหมาะสำหรับต้นกาแฟ ระดับความสูง-ต่ำก็มีความสำคัญอย่างยิ่งเมื่อพืชมีระดับของคาเฟอีน เนื่องจากมีโอกาสน้อยที่แมลงศัตรูพืชจะโจมตีเพราะอาศัยอยู่ที่ระดับความสูง กาแฟที่ปลูกในระดับความสูงทำให้กาแฟมีความเป็นกรดเช่นเดียวกับไวน์ นั่นอาจทำให้หลาย ๆ คนข้าใจผิดว่าคือความขมจากรสกาแฟ

ดิน

ดินมีบทบาทอย่างมากในการอยู่รอดของกาแฟ เนื่องจากดินให้สารอาหารที่จำเป็นซึ่งหาไม่ได้จากอากาศและน้ำ กาแฟสามารถเติบโตได้ในดินหลากหลายชนิด แต่ชนิดที่เหมาะสมคือดินแดงภูเขาไฟที่อุดมสมบูรณ์หรือดินร่วนปนทรายลึก หลายประเทศใน bean belt กาแฟเป็นส่วนหนึ่งของวงแหวนแห่งไฟ การปะทุของภูเขาไฟที่พบว่ามีส่วนทำให้ดินที่ปลูกกาแฟอุดมสมบูรณ์ สำหรับต้นกาแฟที่จะเติบโตสิ่งสำคัญคือดินจะต้องระบายน้ำได้ดี ดินกักเก็บน้ำหรือระบายน้ำตามธรรมชาติ ขึ้นอยู่กับช่องว่างของรูพรุนนั่นหมายความว่าดินเหนียวหรือดินทรายหนักไม่เพียงพอ

นอกจากการระบายน้ำแล้ว พื้นผิวของดินก็ยังส่งผลต่อความสามารถของต้นกาแฟในการทนต่อฤดูแล้ง เนื่องจากน้ำที่กักเก็บไว้ลึกลงไปในดินจะถูกนำไปใช้ในช่วงที่ฝนตกน้อย หนึ่งในสารอาหารที่สำคัญที่สุดสำหรับการปลูกกาแฟคือไนโตรเจน ไนโตรเจนถูกใช้สำหรับการทำงานที่จำเป็น เช่น การสังเคราะห์ด้วยแสงและการสร้างเนื้อเยื่อใหม่ เช่นเดียวกับกระบวนการสำคัญอื่น ๆ ค่าความเป็นกรดเป็นด่างของดินจึงเป็นปัจจัยสำคัญอีกประการหนึ่งในการเจริญเติบโตของต้นกาแฟ ภูมิภาคที่ปลูกกาแฟในเขตร้อนหรือกึ่งร้อนหลายแห่งของโลกมีดินที่เป็นกรดเล็กน้อย ซึ่งเหมาะสำหรับการปลูกกาแฟอย่างมาก

Bean Belt bean belt คืออะไร

ข้อแตกต่างกันสำหรับ กาแฟอาราบิก้าและโรบัสต้า

กาแฟมากกว่าร้อยละ 98 ของโลกประกอบด้วยกาแฟเพียง 2 ชนิดเท่านั้นจากสายพันธุ์ของกาแฟคือ Coffea arabica และ Coffea canephora ซึ่งเป็นที่รู้จักกันดีในชื่ออาราบิก้า และโรบัสต้า ตามลำดับ

ทั้ง 2 ชนิดไม่แตกต่างกันมาก มีคุณสมบัติและคุณสมบัติทางพฤกษศาสตร์และเคมีที่แตกต่างกัน อาราบิก้าเป็นกาแฟที่ละเอียดอ่อนกว่าในทั้งสองสายพันธุ์ ซึ่งต้องการการเพาะปลูกและสภาวะทางสิ่งแวดล้อมที่เหมาะสมเท่านั้นเพื่อความอยู่รอด แต่โรบัสต้านั้นมีความแข็งแรงกว่ามากเมื่อเปรียบเทียบกัน โดยสามารถทนต่ออุณหภูมิ ความสูง และปริมาณน้ำฝนที่สูงมากได้

คุณสมบัติอาราบิก้าโรบัสต้า
อุณหภูมิ15 – 25°c20 – 30°c
ระดับความสูง1,000 – 2,000m200 – 600m
ปริมาณน้ำฝน1,500 – 2500mm2000 – 3000mm
ปริมาณน้ำตาล6 – 9%10 – 12%
ระดับคาเฟอีน0.8 – 1.6%1.7 – 4%
โครโมโซม4422

ระดับคาเฟอีนของต้นกาแฟ มีความสำคัญอย่างยิ่งเนื่องจากทำหน้าที่เป็นสารกำจัดศัตรูพืชตามธรรมชาติ ซึ่งเป็นสาเหตุที่อาราบิก้าต้องเติบโตในระดับความสูงที่สูงขึ้นที่มีแมลงศัตรูพืชอาศัยอยู่น้อยลง ด้วยเหตุนี้การที่กาแฟคาเฟอีนต่ำตามธรรมชาติที่เรียกว่า laurina ใกล้จะสูญพันธุ์

โรบัสต้าส่วนใหญ่ปลูกได้สูงระหว่าง 200 – 600 ม. (650 – 2,000 ฟุต) แต่พันธุ์ไม้ยังสามารถเติบโตได้ในระดับน้ำทะเลเนื่องจากความแข็งแกร่งของมันซึ่งไม่สามารถเกิกขึ้นได้กับสายพันธุ์อาราบิก้า เพราะอาราบิก้ามีโครโมโซมเป็นสองเท่าของโรบัสต้า ซึ่งเป็นเหตุผลว่าทำไมจึงมีรสชาติที่ซับซ้อนกว่าแต่ก็มีปัจจัยอื่นที่ทำให้อาราบิก้ามีรสชาติดีกว่ามาก การผสมผสานระหว่างการปลูกบนที่สูงและมีระดับคาเฟอีนต่ำรวมกับปริมาณน้ำตาลที่สูงกว่า นั่นหมายความว่า อาราบิก้ามีความสมบูรณ์กว่ามากจึงทำให้ได้กาแฟที่ดีและอร่อยที่สุด

bean belt คืออะไร

ประเทศไหนผลิตกาแฟได้ดีที่สุด ?

ประเทศที่ผลิตกาแฟที่ดีที่สุดในโลกคือ ประเทศที่ปลูกสายพันธุ์อาราบิก้า และอาราบิก้ามีการปลูกในอเมริกาและแอฟริกาในปริมาณที่มากขึ้น เราจึงมีประเทศที่ผลิตกาแฟที่ดีที่สุดในโลกของเรามาแชร์ให้กัน

โคลอมเบีย

กาแฟโคลอมเบียคิดเป็น 8 เปอร์เซ็นต์ของกาแฟทั้งโลก ซึ่งทั้งหมดเป็นสายพันธุ์อาราบิก้าที่เหนือกว่าไม่เพียงแต่เป็นแหล่งผลิตกาแฟเท่านั้น แต่ยังมีภูมิศาสตร์ที่สมบรูณ์อีกด้วย โคลัมเบียผลิตกาแฟที่ดีที่สุดในโลก ปลูกที่ระดับความสูงมาก ในดินภูเขาไฟที่มีสารอาหารหนาแน่นจึงเป็นเหตุผลว่าทำไมกาแฟจึงอร่อย ทำให้กาแฟโคลอมเบียเป็นกาแฟที่ทุกคนชื่นชอบ และจากรสช็อกโกแลตและถั่วที่ละเอียดกว่าที่มักพบได้ทั่วไปในกาแฟบราซิล ที่มีกาแฟผลไม้และดอกไม้ ที่ให้ความเข้มข้น ซึ่งแสดงค่าความเป็นกรดที่น่าทึ่งซึ่งพบได้ในกาแฟบนที่สูงเท่านั้น แม้ความจริงที่ว่าพื้นที่ปลูกกาแฟของโคลอมเบียประกอบด้วยฟาร์มขนาดเล็ก แต่นั่นอสดงให้เห็นว่าเน้นที่คุณภาพมากกว่าปริมาณ

กัวเตมาลา

ทุกประเทศที่พูดภาษาสเปนในอเมริกากลางผลิตกาแฟที่อร่อย แต่กาแฟกัวเตมาลาเป็นสิ่งที่พิเศษจริง ๆ เพราะ 97 เปอร์เซ็นต์ของกาแฟที่ผลิตในกัวเตมาลาเป็นพันธุ์อาราบิก้า ที่มีคสชาติที่ดีเช่นเดียวกับกาแฟโคลอมเบีย กาแฟในกัวเตมาลาปลูกในดินภูเขาไฟ มีหลากหลายรสชาติ ตั้งแต่กาแฟช็อกโกแลตเข้มข้นและหนักไปจนถึงกลิ่นผลไม้ที่มีความเข้มข้น

คอสตาริกา

อีกประเทศในอเมริกากลางที่ผลิตกาแฟที่ดีที่สุดในโลกคือ คอสตาริกา เพราะกาแฟที่ปลูกในประเทศทั้งหมดเป็นพันธุ์อาราบิก้า และสิ่งที่ชอบเป็นพิเศษก็คือความหลากหลายของกาแฟในแต่ละภูมิภาค เป็นกาแฟที่ดีให้ความหวานน้อย ทั้งยังมีรสชาติของผลไม้ที่หลากหลาย

เอธิโอเปีย

มีสองประเทศในแอฟริกาที่เป็นราชาแห่งกาแฟอย่างไม่ต้องสงสัย เอธิโอเปียเป็นหนึ่งในประเทศเหล่านั้น กาแฟเอธิโอเปียมีท้าทายต่อรับรู้ว่ากาแฟคืออะไร มักประกอบด้วยพันธุ์อาราบิก้าที่ไม่พบนอกประเทศ กาแฟจึงมีความหลากหลายอย่างไม่น่าเชื่อ ให้กลิ่นหอมละมุนของกาแฟเอธิโอเปียที่ไม่มีผิดเพี้ยน ด้วยกลิ่นมะลิ มะกรูดและลาเวนเดอร์ รวมถึงรสชาติของผลไม้เข้มข้น โดยบลูเบอร์รี่มีความหมายเหมือนกันกับกาแฟเอธิโอเปีย

เคนยา

เกือบหนึ่งศตวรรษที่ผ่านมา นักวิจัยกลุ่มหนึ่งออกเดินทางเพื่อค้นหาสายพันธุ์อาราบิก้าที่เหมาะสมสำหรับสภาพแวดล้อมในเคนยา และสายพันธุ์นั้นก็คือ SL28 และปัจจุบันเป็นขึ้นแท่นโปสเตอร์ของกาแฟเคนยา เช่นเดียวกับกาแฟเอธิโอเปีย กาแฟเคนยาก็เช่นกัน กาแฟจะมีความเข้มข้นของผลไม้มักจะมีรสชาติของแบล็กเคอแรนท์ และยังมีความหวานและรสเปรี้ยวที่อร่อยอีกด้วย

อ้างอิง

  1. scanews.coffee.
  2. The World Atlas of Coffee (2nd ed.) by James Hoffmann.
  3. Coffee Obsession by Anette Moldvaer.

Credit : Source link

ใส่ความเห็น