วิธีชงกาแฟ แบบง่าย ๆ ไม่ต้องง้อเครื่องชงทำยังไงดี ?
การจัดบ้านให้เป็นระเบียบเรียบร้อยของบ้านหลังเล็ก ๆ การเลือกใช้ตู้เสื้อผ้าแบบแคปซูล หรือการเลือกใช้สิ่งของชิ้นเล็กชิ้นน้อยมาใช้ในชีวิตประจำวัน นับว่าเป็นส่วนหนึ่งของวัฒนธรรมสมัยใหม่แล้ว แต่สำหรับใครที่ยังคงเคยชินกับชีวิตแบบเดิม ๆ ไม่ได้ใช้ชีวิตแบบสมัยใหม่ ต้องเดินทางบ่อย ต้องพักที่นู่นที่นั่นบ่อย บางทีตื่นมาแล้วพบว่าเครื่องชงกาแฟพัง ! หรือไม่ก็แค่อยากรู้วิธีชงกาแฟโดยไม่ใช้ตัวกรอง
1. วิธีชงกาแฟ บนเตา
วิธีการชงกาแฟขั้นพื้นฐาน ก็คือการต้มผงกาแฟในน้ำ ที่มักเรียกวิธีชงนี้ว่ากาแฟคาวบอย (cowboy coffee) โดยวิธีการชงกาแฟนี้ไม่ต้องใช้ campfire สามารถทำได้ง่าย ๆ แค่คุณมีเตาแบบตั้งพื้น
สิ่งที่ต้องเตรียม
วัตถุดิบ
- กาแฟบดหยาบ 1 ถึง 2 ช้อนโต๊ะต่อถ้วย
- น้ำ 8 ออนซ์ขึ้นไปต่อถ้วย
- เกลือเล็กน้อย
อุปกรณ์
- เตาตั้งพื้น
- หม้อหรือกระทะ
- กระบวยหรือกระชอน (ไม่จำเป็น)
หมายเหตุ : สำหรับถ้วยขนาด 8 ออนซ์จะต้องใช้กาแฟ 1 ถึง 2 ช้อนโต๊ะ แต่หากต้องการชงกาแฟมากขึ้นให้ใช้อัตราส่วนนี้ เพราะน้ำจะระเหยเนื่องจากการต้ม
ดังนั้น ให้ใช้น้ำมากกว่าปริมาณกาแฟที่คุณต้องการเล็กน้อย
1. ต้มน้ำ.
เทน้ำลงหม้อแล้วเติมเกลือลงไป ตั้งเตาด้วยไฟปานกลางแล้วรอให้น้ำเดือด
2. เติมกาแฟลงในน้ำ
คนส่วนผสมให้เข้ากัน เพื่อไม่ให้ส่วนผสมติดกันจับตัวเป็นก้อน
3. ต้มกาแฟ
เปิดฝาแล้วต้มต่อประมาณ 2 ถึง 3 นาที แล้วควรหมั่นคนเป็นครั้งคราว เพื่อไม่ให้ส่วนผสมติดก้นหม้อ
4. ปล่อยให้กาแฟเดือด
เมื่อกาแฟเดือดซัก 2-3 นาทีแล้ว ให้ยกหม้อออกจากเตา จากนั้นให้พักไว้ประมาณ 5 นาที เพื่อไม่ให้ส่วนผสมลอยตัวและตกอยู่ที่ก้นหม้อ
5. พร้อมเสิร์ฟ
ตักกาแฟหรือค่อย ๆ เทกาแฟลงในแก้วที่เตรียมไว้ โดยระวังไม่ให้กากกาแฟติดขึ้นมา และสามารถใช้ตะกอนในการกรองกากกาแฟได้เลย
วิธีชงกาแฟ แบบอื่น ๆ
วิธีการชงแบบคาวบอยเป็นวิธีที่ง่ายที่สุดในการชงกาแฟ โดยไม่ต้องใช้อุปกรณ์เพิ่มเติมใด ๆ แต่ถ้าคุณต้องการกาแฟที่สะอาด และมีตะกอนน้อยกว่า อาจจะต้องลองชงด้วยวิธีอื่น ๆ ดู
เราจึงมี 2 วิธีการชงกาแฟที่ไม่ต้องใช้เครื่องชงกาแฟมาแชร์ให้กัน
2. วิธีการชงแบบเมสันจาร์ (The Mason Jar Method)
หากคุณไม่ต้องการก่อกองไฟหรือเตาตั้งพื้น ก็สามารถลองใช้ Mason jar variation ซึ่งใช้แค่น้ำร้อน กาแฟ และโถบด หรือภาชนะกันความร้อนอื่น ๆ เท่านั้น
ในการชงกาแฟวิธีนี้ควรเลือกใช้ขวด หรือภาชนะที่เหมาะสำหรับใส่น้ำร้อนหรือทนความร้อนได้ดี เพียงแค่ผสมกาแฟบดหยาบกับน้ำเดือดในขวดที่เตรียมไว้ แล้วแช่ไว้ 5 นาที เมื่อครบเวลาแล้วให้เทกาแฟลงในแก้วที่เตรียมไว้ หรือสามารถเลือกใช้ถุงกรองในการกรองกากกาแฟได้ เพื่อไม่ให้มีตะกอนตกลงในแก้ว
3. วิธีการชงแบบถุงกาแฟ (The Coffee Bag Method)
หากคุณเคยชงชาสักถ้วยคุณจะคุ้นเคยกับวิธีนี้ เพราะจะเป็นการชงกาแฟในน้ำร้อนที่คล้าย ๆ กับการแช่ถุงชา
คุณสามารถหาซื้อ soft coffee pods ได้ทางออนไลน์ ซึ่งเหมาะสำหรับการทำแบบเสิร์ฟเดี่ยว หรือจะทำเองได้ง่าย ๆ โดยวิธีการชงแบบนี้ คือการนำผงกาแฟบดใส่ในถุงกรอง (ถ้าหากมี) หรือผ้า แล้วรัดด้วยเชือกให้แน่น จากนั้นให้แช่ถุงกาแฟในน้ำร้อนประมาณ 5 นาที แล้วให้นำถุงกาแฟออก เท่านี้ก็จะได้กาแฟพร้อมดื่มแล้ว
สรุปการชงกาแฟโดยไม่ใช้เครื่องชงกาแฟ
กุญแจสำคัญในการชงกาแฟโดยไม่มีเครื่องชงกาแฟ คือ การต้มน้ำให้เดือด แต่หากคุณไม่มีไฟฟ้าหรือไม่มีเตาแก๊สและมีปัญหากับวิธีการชง ก็สามารถนำน้ำไปวางไว้ในกลางแจ้ง แม้แต่เลือกใช้หม้อต้มกาแฟที่สามารถเสียบเข้ากับรถได้ ตัวเลือกที่เรานำมานี้ก็ถือเป็นอีกทางเลือกหนึ่งในการชงกาแฟแบบไม่ใช้เคาน์เตอร์นั่นเอง
แม้ว่าจะมีวิธีการชงกาแฟที่หลากหลายโดยไม่ใช้หม้อต้มกาแฟ หรือจริง ๆ แล้วใครบ้างที่ต้องการใช้ถุงในการชงกาแฟ? และหากคุณต้องการเตรียมความพร้อมในกรณีที่ไฟฟ้าดับ หรือเครื่องของคุณพังกะทันหัน ก็สามารถหาที่กรองกาแฟ หรือถุงกรองตามร้านค้าทั่วไปใช้ก่อนและเก็บไว้สำหรับกรณีฉุกเฉิน แต่สำหรับใครที่ชอบความเรียบง่ายก็อย่าลืมแบ่งปันวิธีการชงให้กัน
หากคุณถามว่าตัวคุณเองสนุกและมีใจรักในการชงกาแฟหรือเปล่า ? พวกเราทุกคนบอกบอกเลยว่า ใช่!!
เทคนิคแนะนำ : วิธีปรับคุณภาพน้ำสำหรับชงกาแฟให้มีรสชาติดี
Credit : Source link